10 แบบบ้านชั้นเดียว Port Ludlow


แบบบ้านชั้นเดียว

      แบบบ้านมีขนาดเล็กกระทัดรัด มีพื้นที่ใช้สอยประมาณที่ 220 ตารางเมตร ตัวบ้านสร้างบนพื้นไม้ที่มีขนาดครอบคลุมตัวบ้าน บ้านถูกออกแบบให้เรียบง่าย ปราณีต ดูดี มีกระจกเป็นส่วนใหญ่ ให้ความรู้สึกที่ เปิดกว้าง
#แบบบ้านชั้นเดียว

      ในทิศตะวันออกของบ้าน มีเพดานที่สูง เพดานสูงถึง 3.6 เมตร ให้วิวธรรมชาติ ห้องนั่งเล่นมีกระจกรอบด้าน เหมือนได้นั่งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ และมีประตูกระจกแบบเลื่อนสไลด์ออก แบบสีเหลี่ยมจัตุรัสขนาด 2.40 2.4 ตารางเมตรตัวย่อบ้านเล็กในบ้านมีพื้น ไม้แผ่นเดียวกันให้ความรู้สึกโล่งสบายเหมือนจริงห้องนั่งเล่นผู้ใหญ่ระเบียงกว้าง
#แบบบ้านชั้นเดียว

      ภายในบ้านถูกออกแบบให้เรียบง่าย และปราณีตด้วยพื้นไม้ IPE ประตูห้องส่วนตัวใช้ไม้มะฮอกกานี ความเห็นฝุ่นประดับตกแต่ง วัสดุภายนอก ใช้วัสดุที่หลากหลาย ประตูเลื่อนใหญ่ ใช้โลหะเป็นส่วนประกอบ ส่วนหน้าต่างและประตูอีกส่วน ใช้อลูมิเนียมซึ่งเบากว่า ประตูเลื่อนเป็นแบบสามารถเลื่อนเปิดได้ทั้ง 2 ทางคือทางซ้ายทางขวา
#แบบบ้านชั้นเดียว

      แบบบ้านนี้เป็นแนวคิดการออกแบบบ้านอย่างยั่งยืนหรือ "อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม" วัสดุที่ใช้ทำเพดานและ ผนังส่วนใหญ่ มีฉนวนกันความร้อน และกระจกมีคุณสมบัติคือ ยอมให้แสงธรรมชาติผ่านได้ แต่ป้องกันแสงอันตรายจากดวงอาทิตย์ กระจกมีความแข็งแรงทนทานสูง ประตูเลื่อนสไลด์(เหล็กรีไซเคิล) มีความเหนียวพิเศษ สามารถดูดซับพลังงานได้มาก สุดท้าย...วัสดุตกแต่งภายใน ส่วนใหญ่ใช้ไม้ซึ่งให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ

แบบบ้านที่ดูจากภายนอก

ดูจากภายนอก

ห้องโถง ห้องรับแขก ก็แล้วแต่น่ะ

ห้องครัว

ห้องครัวดูโอ่โถง ด้วยกระจกใส ซึ่งได้ความรู้สึกที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ

ห้องทำงาน สามารถมองออกไปชมวิวได้ ได้ความผ่อนคลายในการทำงาน

อ้าว มันเป็นบ้านสองชั้นนี้หว่า


By : FINNE Architects (www.FINNE.com)

ลักษณะและสาเหตุของรอยร้าวในโครงสร้าง

ชนิดของรอยร้าวรอยร้าวที่เกิดขึ้นกับบ้านพักอาศัยหรืออาคารคอนกรีต สามารถจำแนกตามสาเหตุเป็น 3 ชนิด คือ รอยร้าวที่เกิดจากวัสดุเสื่อมคุณภาพ รอยร้าวที่เกิดจากโครงสร้างรับน้ำหนักเกิน และรอยร้าวที่เกิดจากการทรุดตัว

1. รอยร้าวที่เกิดจากวัสดุเสื่อมคุณภาพ รอยร้าวชนิดนี้เกิดจากความเสื่อมสภาพของวัสดุที่ใช้งานมานาน เกิดจากสิ่งแวดล้อม อุณหภูมิ หรือสารเคมี เป็นต้น

ลักษณะของรอยร้าว
ลักษณะและตำแหน่งของรอยร้าวที่พบบ่อย มี 2 ลักษณะ คือ

1.1 แตกร้าวที่ผิวของคอนกรีต เกิดจากคอนกรีตเสื่อมสภาพ ทำให้คอนกรีตเกิดการยืด-หดตัว หรืออีกกรณีคือ ถูกกัดเซาะจากสารเคมี  การแตกร้าวมีลักษณะเป็นหย่อมๆ หรืออาจขึ้นบริเวณกว้าง มีลักษณะเป็นลายงา หรืออื่นๆ(รูปไม่แน่นอน) เมื่อกระเทาะคอนกรีตบริเวรนั้นออก จะพบว่ารอยแตกร้าวไปไม่ถึงแกนกลางคอนกรีต  แต่ถ้าการแตกร้าวเกิดจากการกัดเซาะขอ

1.2แตกร้าวไปถึงเล็กเสริม ส่วนใหญ่เกิดจากเหล็กเสริมเป็นสนิม สนิมของเหล็กเกิดจาก...
*คอนกรีตที่หุ้มเหล็กเสริมมีความหนาน้อยเกินไป
*อยู่ในที่ๆมีคลอไรด์สูง (เช่น เสาตอม่อที่อยู่ใต้ดิน และดินบริเวรนั้นอาจเป็นดินเข็ม ซึ่งมีเกลือคลอไรด์ผสมอยู่)
*อยู่ในสภาวะสภาพที่ชุ่มน้ำ หรือสัมผัสความชื้น เช่นคานคอดิน

เมื่อเหล็กรวมตัวกับไอน้ำ เหล็กจะกลายเป็นสนิมและบวมตัว จนกระทั้งดันคอนกรีตแตกออก ลักษณะการแตกร้าวนี้ จะเป็นแนวยาวขนานไปกับทิศทางการวางเหล็ก

2  รอยร้าวที่เกิดจากโครงสร้างรับน้ำหนักเกิน
รอยร้าวประเภทนี้เกิดจากโครงสร้างมีขนาดเล็กเกินไป หรือใช้งานผิดประเภท ทำให้โครงสร้างรับน้ำหนักมากกว่าที่ออกแบบไว้  โครงสร้างจึงเกิดการแอ่นตัว และจะมากขึ้นเรื่อยๆหากไม่ได้รับการแก้ไข

คาน
หากคานมีขนาดเล็กเกินไป หรือรับน้ำหนักมากเกินไป คานจะเกิดรอยร้าว รอยแตกร้าวที่เกิดขึ้นมีลักษณะดังนี้
*ช่วงกลางคาน รอยแตกลายจะเกิดขึ้นที่ใต้ท้องคาน บริเวณช่วงกึ่งกลางความยาว มีลักษณะเหมือนรูปตัววี และต่อเนื่องขึ้นในแนวดิ่งของคาน เมื่อคานแอ่นตัวมากขึ้นเรื่อยๆ รอยร้าวจะเพิ่มมากขึ้น เป็นหลายแนว ขนานกับรอยร้าวแรก

*ช่วงปลายคาน รอยแตกร้าวที่ปลายคานจะเริ่มขึ้นที่ด้านบน และร้าวลงด้านล่าง อาจร้าวเป็นแนวดิ่งหรือแนวเฉียง โดยทั่วไป รอยแตกร้าวที่ปลายคานจะเกิดขึ้นภายหลังจากเกิดรอยร้าวที่กลางคาน ดังนั้น หากพบรอยร้าวที่กลางคาน ควรรีบดำเนินการแก้ไขก่อนรอบร้าวจะลาม

พื้น
สำหรับพื้นที่รับน้ำหนักเกิน จะเกิดการแอ่นตัวจนมีรอยแตกร้าวตามตำแหน่งต่างๆ คือ
*ท้องพื้น
**หากเป็นคอนกรีตหล่อในเสริมเหล็กสองทาง จะเกิดรอยแตกที่ท้องพื้นที่ส่วนกลาง รอยแตกลายจะมีลักษณะเฉียงจากกึ่งกลางของพื้น เข้าหาเสาทั้งสี่มุม
**หากเป็นพื้นที่เสริมเหล็กทางเดียว จะเกิดรอยแตกร้าวที่ท้องพื้นเป็นเส้นตั้งฉากกับแนวเสริมเหล็ก

เสา
เสา เมื่อได้รับน้ำหนักบรรทุกไม่ไหวจะเกิดการโก่งเดาะ คอนกรีตช่วงกลางเสาจะแตกออก เหล็กเสริมจะงอ

ลักษณะการแตกร้าวของเสา จะเป็นข้อมูลในการช่วยวิเคราะห์สาเหตุ

*สาวที่แตกเป็นปล้องๆ ในแนวนอน และเกิดเพียงด้านใดด้านหนึ่ง หรือคอนกรีตแตกออกจนเห็นเหล็กเสริม  เกิดจากโครงสร้างส่วนอื่นดึงเสาต้นนี้ เพราะเรานั้นมีความสูงมากเกินไป

*คอนกรีตบริเวณแกนกลางแตกออก เหล็กเสริมทุกเส้นหักงอ แสดงว่าคอนกรีตในช่วงนั้นไม่สามารถรับน้ำหนักได้

ผนัง
หากโครงสร้างรับน้ำหนักไม่ได้ จะทำให้ผนังที่อยู่ติดกับโครงสร้างแตก เช่น คานรับน้ำหนักเกินจนแอ่นตัว จึงกดทับผนังทำให้ผนังแตกร้าว

การทำงานของกำแพงเสาเข็ม


เสาเข็มในปัจจุบันก็มีจุดประสงค์หลายแบบ ดูภายนอกแล้วก็คงไม่ทราบว่ามันต่างกันอย่างไร

เสาเข็มในรูปด้านบน เป็นเสาเข็มที่ใช้กันดิน วิธีใช้คือ ตอกเสาเข็มลงไป แล้วใส่แผ่นพื้นสำเร็จรูปลงตามร่องเสาเข็ม


รูปด้านบน เป็นกำแพงที่พัง เนื่องจากเลือกความยาวของเสาเข็มผิดไป จึงทำให้ต้องต่อเสาขึ้น ซึ่งการต่อเสานั้น ก็ไม่แข็งแรงมากพอ จึงเกิดการพัง

กำแพงพัง เป็นเรื่องเล็กครับ เพราะเป็นโรงงานก่อสร้าง เลยไม่ได้ห่วงว่าโรงงานตัวเองจะพัง พังก็ซ่อม

จริงๆแล้ว สาเหตุที่กำแพงในรูปด้านบนพังนั้น มีหลายปัจจัยร่วมกัน คือ ฝนตก 1.ทำให้ดินทรุดตัว 2.ส่วนที่กำแพงพัง เป็นกองทราย ซึ่งฝนตกแล้วทำให้ทรายเกิดการสไลด์ตัดส่วนที่อ่อนแอที่สุดของเสา(จุดต่อ) เลยพัง

แนะนำการจัดห้อง Modern Apartment

ไปเห็นในเว็บมา เป็นการจัดการห้องในอพาร์ทเม้น ซึ่งออกแบบไว้ให้มีสองห้องนอน บ้านทุกวันนี้ก็เป็นทรงสี่เหลี่ยมอยู่แล้ว เลยเอามาโพสซ่ะเลย

ด้านล่างของรูปภาพ จะเขียนอธิบายไว้ คุณไม่จำเป็นต้องอ่านมัน ดูแค่รูป แล้วถามใจตัวเอง ว่า โอเคไหม

ลักษณะการแบ่งห้อง คือ แบ่งตามความยาวของห้อง ส่วนหนึ่งเป็นห้องนอน และอีกส่วนเป็นห้องรับแขก ส่วนหลังของอพาร์ทเม้นนั้น เป็นโต๊ะรับประทานอาหาร ตามมุมห้องตกแต่งไปด้วยต้นไม้(ต้นไม้ปลอมหรอกน่ะ) ทำให้รู้สึกว่าคุณกำลังอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ การตกแต่งเน้นสีขาว เน้นความสว่าง ดูสบายๆ


เป็นอพาร์ทเม้นที่เหลือพื้นที่นั่งเล่นไว้เยอะ ซึ่งถ้าเป็นบ้าน ส่วนที่ใช้นั่งเล่นคงเป็นระเบียงของบ้าน การจัดห้อง เน้นการใช้พื้นที่ห้องให้เป็นประโยชน์ เลยดูรกๆกว่าแบบด้านบน เน้นสีมากขึ้น เช่นสีเตา ใช้สีเหลือง สีเตียงนอน ใช้สีชมพู แลดูมีสีสัน

เป็นการตกแต่งห้องแนวๆสีมืด ก็แล้วแต่คนจะชอบหล่ะว๊า แลดูมีความเป็นส่วนตัวสูง โต๊ะกินข้าวด้านนอกห้อง มีต้นไม้สูง ปกป้องความเป็นส่วนตัวได้ดี


แหม อันนี้มีสีสองโทนคือ เขียว กับ ม่วง ในส่วนของห้องน้ำ เป็นสีเขียว และในส่วนของห้องนั่งเล่นใช้สีม่วง คนละสไตน์มาอยู่รวมกัน

ได้แบบบ้านชั้นเดียวมาจากเว็บ home-designing.com

25 แบบบ้าน Modern Luxury Villas

บ้าน > บ้านสองชั้น > Modern Luxury Villas

ภายในบ้าน Modern Luxury Villas
 ห้องรับแขก โปร่ง โล่ง เพดานยกสูง เพื่ออากาศที่สดสัย
ห้องรับแขก บ้าน Modern Luxury Villas
 วัสดุกระจก ถูกเลือกให้เป็นกำแพงห้องนั่งเล่น สามารถมองดูวิวภัยนอกได้อย่างชัดเจน
บ้าน Modern Luxury Villas
 โซนพักผ่อนหลังบ้าน มีสระว่ายน้ำขนาดกลาง พร้อมที่นอนพักผ่อน ด้านบนเปิดโล่ง ทำให้สามารถนอนมองดูดาวในยามกลางคืนได้
สนาม Modern Luxury Villas
 แบบบ้านหลังนี้ ถูกออกแบบโดย Gal Maron.
ทางเข้าบ้าน Modern Luxury Villas
 ทางเดินเข้าตัวบ้าน ถูกตกแต่งด้วยหินอ่อน เว้นที่ว่างให้หญ้าขึ้น ดูกลมกลืนไปกับธรรมชาติ
แบบบ้าน Modern Luxury Villas
 สนามหญ้าสำหรับลูกๆหลานๆ พื้นที่กว้างขวาง ปลูกหญ้าเต็มพื้นที่ พื้นต่างระดับ ทำให้เหมือนอยู่ท่ามกลางภูเขา จึงเกิดความรู้สึกผ่อนคลาย
ห้องนั้งเล่น Modern Luxury Villas
ห้องนั่งเล่นแบบกระจก เห็นวิวทิวทัศได้ชัดเจน โปร่ง โล่ง สบาย

Modern Luxury Villas Design By Gal Marom.
จาก home-designing.com

9 แบบบ้านชั้นเดียว 2 ห้องนอน

บ้าน > บ้านชั้นเดียว > แบบบ้านชั้นเดียว 2 ห้องนอน

โครงสร้างภายในของห้อง อาจเป็นบ้านเล็กๆ หรืออาจเป็นอพาร์ทเมนก็ได้
ซึ่งเป็นแบบบ้านที่เหมาะกับคู่รัก หรือครอบครัวเล็กๆ

แบบบ้านชั้นเดียว
ทุกพื้นที่ภายในบ้าน มีการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ และมีความสะดวกสะบายมากกว่าบ้านแบบอื่นๆ

ภายในบ้านมีลักษณะคล้ายรูปตัวแอล ซึ่งทำให้รู้สึกว่าบ้านกว้างขวาง ห้องทุกห้อง ติดกับห้องโถงใหญ่ ดูมีความเปิดเผยยิ่งกว่า

แบบบ้านชั้นเดียว
รูปอันด้านบนนี้ ออกแบบให้มีความเป็นส่วนตัวมากกว่า ห้องนอนไม่ได้ออกแบบมาให้ติดกับห้องโถงโดยตรง ทำให้แขกของคุณมีความรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น  ห้องนอนแต่ล่ะห้องมีพื้นที่กว้างขวาง และอยู่ติดกับห้องน้ำ ซึ่งมอบความสะดวกให้แก่คุณ

ได้แบบบ้านชั้นเดียวมาจากเว็บ home-designing.com

แบบบ้าน3ชั้น ราคาเริ่มที่ 2.69 ล้านบาท ทาวน์โฮม

บ้าน > บ้านสามชั้น > ทาวน์โฮม

บ้าน3ชั้น
“เพราะเราเชื่อว่าที่อยู่อาศัยที่ดี เป็นจุดเริ่มต้นของอนาคตที่ดี”

แบบบ้าน2ชั้น
แบบแปลนบ้าน
บ้านชั้นที่หนึ่ง มีพื้นที่ใช้สอย 60 ตารางเมตร
  • ห้องนั่งเล่น มีพื้นที่ 13 ตารางเมตร
  • ห้องรับประทานอาหาร มีพื้นที่ 9.5 ตารางเมตร
  • ห้องครัว พื้นที่ 6 ตารางเมตร
  • ห้องน้ำ พื้นที่ 3.5 ตารางเมตร
  • ห้องเก็บของ 2.3 ตารางเมตร
  • ระเบียง มีพื้นที่ 13.5 ตารางเมตร
บ้านชั้นที่สอง มีพื้นที่ใช้สอย 56 ตารางเมตร
  • ห้องนอน ห้องที่สอง มีพื้นที่ 9.5 ตารางเมตร
  • ห้องนอน ห้องที่สาม มีพื้นที่ 9.7 ตารางเมตร
  • ห้องนั้งเล่น มีพื้นที่ 13 ตารางเมตร
  • ห้องทำงาน มีพื้นที่ 9.5 ตารางเมตร
  • ห้องน้ำ มีพื้นที่ 3.5 ตารางเมตร
  • ระเบียง มีพื้นที่ 3 ตารางเมตร
บ้านชั้นที่สาม มีพื้นที่ใช้สอย 56 ตารางเมตร
  • ห้องนอน ห้องที่หนึ่ง มีพื้นที่ 17 ตารางเมตร
  • Walk in Closet มีพื้นที่ 6 ตารางเมตร
  • ห้องน้ำ มีพื้นที่ 4.4 ตารางเมตร
  • ระเบียงชั้นที่สาม มีพื้นที่ 4 ตารางเมตร
“โดดเด่นด้วยแนวความคิด และการออกแบบสำหรับการใช้ชีวิตอย่างมีสไตล์”


        ตอบโจทย์วิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของคุณด้วย the fixed ทาวน์โฮมแนวคิดใหม่หน้ากว้างขวางถึง 6.5 เมตร จากแนวคิด Flexibility Function Design ที่ทำให้เราก้าวข้ามทุกข้อจำกัดของการออกแบบบ้าน2ชั้นในพื้นที่จำกัด สรรค์สร้างพื้นที่ใช้สอย ทั้งภายในและภายนอกอาคารที่หลากหลาย ผสานการออกแบบฟังก์ชันภายในแบบสลิป ทำให้บ้าน2ชั้นมีห้องรับแขกโล่ง โปร่ง สบาย ระดับเพดานที่สูงถึง 4 เมตร พร้อมด้วยฟังชั่นหลากหลายสำหรับครอบครัว

รูป บ้าน2ชั้น
        บ้าน มีห้องนั่งเล่น,ห้องนอน 3 ห้องนอน และ 3 ห้องน้ำ มุมทำงานที่เป็นสัดส่วนอย่างมีสไตล์ ตอบโจทย์ความต้องการที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของคุณ และครอบครัวอย่างแท้จริง

รูป บ้าน2ชั้น
        มั่นใจได้ในคุณภาพมาตรฐานบ้าน ด้วยวัสดุคุณภาพ premium โครงหลังคา กัลวาไนท์ ป้องกันสนิม 100 เปอร์เซ็นต์ วัสดุปูพื้นตกแต่งและสุขภัณฑ์เจาะจงเลือกใช้ของเครือSCG  ใส่ใจแนวคิดประหยัดพลังงาน ด้วยการพ่น พียูโฟม ป้องกันความร้อนใต้หลังคาผนังอิฐ Q-con ช่วยลดความร้อนและเสียงรบกวนเข้าสู่อาคาร ให้คุณพักผ่อนสบายอย่างแท้จริง

        คำบรรยาย ท่องมาจากในโบว์ชัวร์บ้าน2ชั้นเด๊ะ คิดเองไม่เป็น

รูป บ้าน2ชั้น
ทุกรายละเอียดล้อมรวมเติมเต็มคำความหมายของคำว่าบ้าน2ชั้น ได้ในทุกมิติ

รูป บ้าน2ชั้น
มุมจากด้านบนของตัวบ้าน โรงรถ จอดรถได้ 2 คัน

รูป บ้าน2ชั้น
หลังบ้านเป็นลานกว้าง(มั้ง)


หน้าบ้านกว้างราวๆ 6.5 เมตร

#แบบบ้านสามชั้น

24 แบบ แปลน บ้านสองชั้น ฟรี Modish B



พื้นที่ใช้สอย 184 ตารางเมตร

3 ห้องนอน
3 ห้องน้ำ
1 ห้องรับแขก
1 ห้องครัว
2 ที่จอดรถ

23 แบบ แปลน บ้านสองชั้น ฟรี Smart B


เริ่มชีวิตด้วยคุณภาพ ความสุขที่ดีไซน์ได้เอง 


พื้นที่ใช้สอย 133 ตารางเมตร

3 ห้องนอน
3 ห้องน้ำ
1 ห้องรับแขก
1 ห้องครัว
2 ที่จอดรถ


เป็นบ้านขนาดไม่ใหญ่โตมาก พื้นที่ใช้สอยชั้นแรกนั้น ประมาณ 50 ตารางเมตร ส่วนชั้นที่สอง มี 80 ตารางเมตร รูปลักษณ์หน้าบ้านนั้นดูเรียบง่าย เสาหน้าบ้านส่วนใหญ่ทำออกมาใหญ่ ให้ดูแข็งแกร่ง กันสาดของหน้าต่างชั้นบนนั้น ทำด้วยปูน อันนี้ทำยากน่ะครับ ต้องใช้ช่างที่รอบครอบจริงๆ เพราะปูนมันหนัก ถ้าทำไม่ดี อาจหลุดลงมาทับคนได้ บ้านผู้เขียนเองก็หลุดครับ แต่บ้านผมนั้น ใช้ช่างที่ฝีมือไม่ดี ตอนสร้าง เน้นราคาถูกอย่างเดียว สักพักก็พัง แหม๋ ค่าซ่อมแพงกว่าค่าสร้าง

22 แบบ แปลน บ้านสองชั้น ฟรี Smart A

บ้าน > บ้านสองชั้น > Smart A


เริ่มชีวิตด้วยคุณภาพ ความสุขที่ดีไซน์ได้เอง 
แบบ แปลน บ้านสองชั้น ฟรี

พื้นที่ใช้สอย 151 ตารางเมตร
ขนาดของบ้าน ประมาณ 9 เมตร x 9 เมตร ควรมีที่ดินอย่างน้อย 12เมตร x 12เมตร

3 ห้องนอน
3 ห้องน้ำ
1 ห้องรับแขก
1 ห้องครัว
2 ที่จอดรถ

เป็นบ้านที่มีโรงจอดรถที่ใหญ่ เมื่อเทียบกับตัวบ้าน พื้นที่ใช้สอยในชั้นแรกนั้น ประมาณ 60 ตารางเมตร ส่วนในชั้นที่สอง มีพื้นที่ประมาณ 90 ตารางเมตร

21 แบบ แปลน บ้านสองชั้น ฟรี Modish A

บ้าน > บ้านสองชั้น > Modish A

ขยายพื้นที่ความสุขให้ใหญ่ขึ้นสำหรับทุกคนในครอบครัว 


พื้นที่ใช้สอย 211 ตารางเมตร
ต้องมีที่ดินประมาณ 15 x 15 เมตร


4 ห้องนอน
3 ห้องน้ำ
1 ห้องรับแขก
1 ห้องครัว
2 ที่จอดรถ


ด้านบนของที่จอดรถ ทำเป็นระเบียง เอาไว้นั้งซดกาแฟยามเช้า หรือนั้งดินเนอร์ บรรยากาศสบายๆ ใช่ไหมครับ! แต่ในความเป็นจริง อาจมีแต่ขี้นกก็เป็นได้ ถ้าไม่รู้จักดูแลรักษาบ้าน บางคนก็ทำแต่งาน จนไม่มีเวลาอยู่กับบ้าน บ้านจึงใช้เป็นที่ซุกหัวนอนเท่านั้นเอง แล้วจะมีบ้านสวยๆไว้ทำอะไร?

20 แบบ แปลน บ้านสองชั้น ฟรี Luxury B

บ้าน > บ้านสองชั้น > Luxury B



ต้องใช้ที่ดินหน้ากว้าง 16 เมตร ลึกประมาณ 14 เมตร หรือมีพื้นที่ 225 ตารางเมตร

ลักษณะบ้าน หน้าบ้านทำกระจกบานใหญ่ ทำเป็นกำแพงไปเลย ดูหรูหรา


พื้นที่ใช้สอย 249 ตารางเมตร

4 ห้องนอน
4 ห้องน้ำ
1 ห้องรับแขก
1 ห้องครัว
3 ที่จอดรถ
1 ห้องอเนกประสงค์

เพียบพร้อมไปด้วยความสุขของคน 3 รุ่น เพื่อเชื่อมโยงความรัก ความผูกพันให้แน่น

19 แบบ แปลน บ้านสองชั้น ฟรี Luxury A

บ้าน > บ้านสองชั้น > Luxury A


 พอดีว่าเดินผ่านศูนย์การค้า เขาเลยแจก โอ๊ว เห็นแล้วสวยดี เลยเอามาลง บ้านหลังนี้ ต้องใช้ที่ด้านหน้า
กว้างอย่างน้อย 20 เมตร ลึกอย่างน้อย 14 เมตร หรือประมาณ 280 ตารางเมตร

ที่ว่ามีพื้นที่ใช้สอย 294 ตารางเมตร คือ มันมีสองชั้น ชั้นละราวๆ 150 ตารางเมตร

ดูๆแล้วก็น่าจะราคาสูงพอสมควร


พื้นที่ใช้สอย 294 ตารางเมตร

4 ห้องนอน
5 ห้องน้ำ
1 ห้องรับแขก
1 ห้องครัว
3 ที่จอดรถ
1 ห้องอเนกประสงค์
1 ห้องซักรีด
1 ห้องแม่บ้าน

7 Tips for Surviving The Leap From Employee to Entrepreneur

7 เคล็ดลับสู่ความสำเร็จสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่กำลังจะผันตัวสู่เจ้าของกิจการ (ยาวหน่อย แต่แนะนำให้อ่านเหมือนเดิมครับ)

7 Tips for Surviving The Leap From Employee to Entrepreneur
สำหรับเจ้าของธุรกิจที่ต้องการความสำเร็จ พวกเขาต้องมีอะไรที่เหนือกว่าความคิดที่ดีและเครือข่ายที่ดี (แม้ว่าทั้งสองอย่างนี้เป็นสิ่งจำเป็นก็ตาม) ลองเปลี่ยนจากการทำงานประจำที่ซ้ำซากจำเจ มาอยู่ในโลกธุรกิจดูบ้าง โลกที่ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับความเสี่ยง ความเปลี่ยนแปลง และหลายสิ่งหลายอย่างที่คนอื่นมองข้ามไป หลายครั้งที่พนักงานสุดแสนจะละเอียดรอบคอบในการทำงาน ก็ไม่สามารถปรับใช้นิสัยเล่านี้ในโลกธุรกิจ
Small Business Administration (ฝ่ายบริหารธุรกิจขนาดเล็ก) ได้กล่าวไว้ว่า มีธุรกิจใหม่เพียงแค่ครึ่งหนึ่งเท่านั้นที่จะอยู่รอดไปจนถึงปีที่5 ดังนั้นการผันตัวจากลูกจ้างมาเป็นเจ้าของธุรกิจเสียเอง ก็นับได้ว่าเป็นการหลีกเลี่ยงที่จะทำงานกับบริษัทที่อาจจะไปไม่รอด
ต่อไปนี้ คือ 7 เคล็ดลับสู่ความสำเร็จสำหรับผู้ที่กำลังผันตัวมาเป็นเจ้าของธุรกิจ

1. รู้จักการปฏิเสธ
ตอนคุณทำงานกับบริษัทยักษ์ใหญ่ คุณคงเคยชินกับการก้มหน้าก้มตาทำทุกอย่างที่ทุกคนร้องขอ เพราะการทำเช่นนี้ มันแสดงให้เห็นว่าคุณมีความน่าเชื่อถือ และมันอาจจะทำให้เจ้านายพึงพอใจอย่างมากกับทัศนคติที่ดีของคุณ แต่สำหรับเจ้าของธุรกิจแล้ว การทำแบบนี้ไม่ช่วยให้ธุรกิจคุณไปได้ไกลนัก สำหรับการเริ่มต้น ทั้งเวลาที่มีจำกัดและการตารางการทำธุรกิจ อาจทำให้ไม่สามารถทำทุกอย่างได้ สิ่งที่สำคัญมากที่สุด คือการมีแผนปฏิบัติงาน อย่าทำทุกอย่างตามที่ทุกคนต้องการ ทำใจให้ชินกับการปฏิเสธดูบ้าง สนใจเพียงแค่หน้าที่หลักๆของคุณ

2. ลืมเรื่องความสมบูรณ์แบบ
ในบริษัทยักษ์ใหญ่ คุณคงเคยชินกับเจ้านายที่ต้องการความสมบูรณ์แบบอยู่เสมอ หรือการแก้งานซ้ำแล้วซ้ำเล่ากว่าจะผ่าน แต่สำหรับธุรกิจขนาดเล็กหรือผู้เริ่มต้น คุณไม่มีทรัพยากรมากพอที่จะทำให้เกิด “ความสมบูรณ์แบบ” และแนวคิดเรื่องความสมบูรณ์แบบนั้นก็คงจะเป็นไปไม่ได้
“สำหรับเจ้าของธุรกิจ การแสดงหาความสมบูรณ์แบบอาจก่อให้เกิดหนี้สิน” ยิ่งคุณเสียเวลากับรายละเอียดเยอะมากแค่ไหน ยิ่งทำให้ธุรกิจคุณช้าลงไปเท่านั้น สนใจเพียงแค่ผลกระทบหลักๆ สิ่งที่เป็นพื้นฐานหลักๆ และยอมรับความสมบูรณ์ของงานเพียง 80% หรือบางครั้งอาจต่ำกว่านั้น เหมือนกับข้อความโปสเตอร์ในเฟสบุคที่โด่งดังได้กล่าวว่า “ลงมือทำให้เสร็จดีกว่านั่งรอคอยความสมบูรณ์แบบ”

3. อย่ากลัวการทำงานเป็นเวลานาน
หลายคนคิดว่าชีวิตของเจ้าของธุรกิจดูเหมือนจะใช้เวลาไม่มากนัก แม้ว่าชีวิตแบบนั้นจะมีอยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่แล้ว เจ้าของธุรกิจมักจะรู้สึกว่าตนเองต้องทำงานนานกว่ามนุษย์เงินเดือนเสียอีก บางวันคุณอาจจะต้องทำงานตั้งแต่ 9โมงถึง 5โมงเย็น หรืออาจจะเป็น 9โมงถึงเที่ยงคืน นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคุณควรจะเริ่มทำในสิ่งที่คุณรัก และจำไว้เสมอว่า คุณกำลังทำงานเพื่อตามความฝันของตนเอง ไม่ใช่ความฝันของคนอื่น คุณไม่จำเป็นต้องเสียสละเวลาของตัวเองเผื่อทำตามความฝันของคนอื่นอีกต่อไป

4. เตรียมพร้อมสำหรับการทำงานในหลายตำแหน่งในเวลาเดียวกัน
การเป็นพนักงานบริษัท เมื่อมีอะไรเสีย คุณก็สามารถเรียกคนอื่นมาซ่อมได้ และคุณคงไม่สนใจคนที่กำลังทำความสะอาดพื้นหรือคนที่คอยรดน้ำต้นไม้ แต่เมื่อคุณมีธุรกิจเป็นของตนเอง คุณจะต้องทำหน้าที่หลายๆอย่าง คุณอาจเป็นช่างเทคนิคหนึ่งชั่วโมง แล้วจึงมาช่วยการขายและการตลาด อีกทั้งการทำบัญชี รวมแม้กระทั่งการทำความสะอาด ในความเป็นจริง คุณต้องลดอีโก้ของตัวเองลง ก่อนที่จะเริ่มทำอะไรถามตัวเองดูก่อนว่า คุณชอบการทำงานในตำแหน่งต่างๆ เหล่านั้นทุกตำแหน่งหรือไม่ รวมทั้งตำแหน่งด้วยบางตำแหน่งที่ไม่น่าสนใจเลย

5. สามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องเข้าสังคม
ตอนคุณทำงานกับบริษัทยักษ์ใหญ่ คุณคงจะเคยบ่นเพื่อนร่วมงานสุดเนี๊ยบและเจ้านายสุดโหด แต่เมื่อคุณออกมาจากที่ทำงาน คุณก็คงจะรู้สึกประหลาดใจที่คุณยังต้องติดต่อเพื่ออาศัยเพื่อนในแผนกบัญชี หรือเพื่อนในแผนกขนส่ง
ในสัปดาห์แรกๆที่คุณเริ่มทำธุรกิจของตนเอง คุณอาจจะรู้สึกแปลกๆอยู่บ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าคุณต้องออกไปทำงานนอกบ้าน จงต่อสู้กับการอยู่โดยไม่ต้องเข้าสังคม ลองติดต่อเพื่อนๆที่เคยรู้จัก ลองไปทำงานที่ร้านกาแฟสัก 2-3 ชั่วโมง หรืออาจจะลองใช้สำนักงานร่วมผู้อื่น หรือใช้พื้นที่ทำงานร่วมกับผู้อื่น รวมทั้งการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของเครือข่ายในพื้นที่

6. ปฎิบัติงานตามตาราง
โดยส่วนมากธุรกิจใหม่ของคุณเป็นการทำงานแบบอิสระใช่หรือไม่ คุณไม่มีตารางงานที่แน่นอนเพราะคุณกำลังสร้างธุรกิจจากกรอบสี่เหลี่ยมเพียงอันเดียวใช่หรือไม่ การที่คุณเปลี่ยนมาเป็นเจ้านายตัวเองนั้น คุณต้องพยายามทำตามตารางที่คุณวางไว้ให้มากที่สุด “การเป็นเจ้านายตนเองไม่ได้หมายความว่าคุณสามารถโยนนาฬิกาปลุกทิ้งไปหรือใช้เวลา 4 ชั่วโมงไปกับการรับประทานอาหารกลางวันได้” การมีตารางงานที่ชัดเจน แน่นอน จะช่วยทำให้คุณมีวินัยและทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ผู้เชี่ยวชาญมากมายเลือกที่จะเป็นเจ้านายตัวเอง เพราะว่าพวกเขาเหนื่อยจากการทำงานตามตารางงานที่เข้มงวด จนเหมือนเป็นเผด็จการจากบริษัท พวกเขาไม่อยากทำให้ธุรกิจของพวกเขากลายเป็นเหมือนตารางซ้ำซากจำเจแบบเดิมๆ อีก คุณสามารถใช้เวลาพักเที่ยงไปกับการดูแลลูกๆ พาสุนัขไปเดินเล่น หรือออกไปสูดอากาศที่สดชื่นในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส คุณสามารถจัดตารางการทำงานในแบบที่คุณต้องการได้เอง เพราะนั้นธุรกิจเป็นของคุณ และชีวิตก็เป็นของคุณด้วย

7. สร้างเงินทุนสำหรับการทำธุรกิจ
การที่จะประสบความสำเร็จจากธุรกิจนั้น มีสิ่งที่ควรพิจารณา คือ เงินทุน คุณกำลังจะเปลี่ยนจากมนุษย์เงินเดือน ไปเป็นคนที่จะต้องนั่งคอยว่าจะมีเช็คเข้ามาอีกทีเมื่อไหร่ ถ้าเป็นไปได้ ก่อนที่คุณจะทิ้งงานเดิม คุณควรมีเงินเก็บสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ของคุณ อย่างน้อย 3-6 เดือน (หรืออาจจะมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับธรรมชาติของธุรกิจคุณ) การมีหลักประกันที่มั่นคงจะช่วยให้คุณมีสมาธิในการสร้างธุรกิจใหม่ของคุณ มากกว่าการที่คอยกังวลว่าจะชำระค่าใช้จ่ายต่างๆได้อย่างไร

เอามาจาก Facebook Page : อายุน้อย 100 ล้าน

10 ข้อคิดที่นักธุรกิจมือใหม่ต้องรู้

1. เริ่มต้นธุรกิจ จงโฟกัส!
2. ทําธุรกิจที่ตัวเองถนัดหรือชอบ
3. จงอธิบายธุรกิจของคุณภายใน 30 วิ
4. จงรู้ว่าตัวเองรู้อะไร รู้ว่าตัวเองไม่รู้อะไร
5. เริ่มต้นอย่างธุรกิจขนาดเล็ก
6. เรียนรู้ไปกับความล้มเหลว
7. เริ่มต้นด้วยเงินของตัวเอง
8. พึงรักษาสุขภาพ
9. การกระทําสําคัญกว่าคําพูด
10.จงรู้ว่าเมื่อไหร่ควรเลิก

"10 Tips for the First-Time Business Owner"
1. Focus! Focus! Focus!
หลายครั้งที่ผู้ประกอบการมือใหม่ กระโดดเข้าไปยังทุก ๆ “โอกาส” ที่ผ่านเข้า มา โอกาสเหล่านี้มองดูสวยงามสดใส ผู้ ประกอบการมือใหม่อาจคิดว่า “เราก็น่าจะ ทําได้นะ!” หรือ “ต้องสําเร็จแน่ ๆ” หรือ “น้ํา ขึ่นให้รีบตัก” แต่ที่จริงเราในชีวิตเรามี โอกาสมากมาย จงพยายามหลีกเลี่ยงที่จะ ทําทุกอย่าง การทําหลาย ๆ อย่างพร้อมกัน จะทําให้ทรัพยากรเวลา หรือเงินตราของ ท่านถูกแชร์ไปในโอกาสต่าง ๆ จนทําให้ ไม่มีโอกาสไหนได้ทรัพยากรที่เพียงพอใน การหาประโยชน์ “มันดีกว่าที่คุณจะทําอะไร ซักอย่างหนื่งให้สําเร็จ ดีกว่าการทํา 10 อย่างแต่ไม่มีอะไรสําเร็จเลย”

2. Know what you do. Do what you know.
ทําในสิ่งที่รู้ และรู้ในสิ่งที่ทํา อย่า เริ่มทําธุรกิจที่แค่ท่านเห็นว่า “มันน่าจะทํา กําไรได้อย่างมหาศาล” ทําในสิ่งที่ท่านรัก ธุรกิจที่สร้างขี้นจากความชอบ หรือความ สามารถของท่านเองมีโอกาสสูงที่จะสําเร็จ มันไม่จําเป็นที่ธุรกิจของท่านจะต้องเป็น ธุรกิจที่ทํากําไรมหาศาล เพราะการทําธุรกิจ ท่านจะต้องอยู่กับธุรกิจของท่านทุก ๆวัน ทั้ง วันทั้งคืน ถ้าท่านไม่ชอบธุรกิจของท่าน มัน ไม่สนุกแน่!

3. Say it in 30 seconds or don’t say it at all.
ในการทําธุรกิจมีหลายครั้งที่คุณ จะต้องพบเจอกับนักลงทุน หรือลูกค้าช่าง สงสัยโดยที่คุณไม่ได้ตั้งตัวมาก่อน จงพร้อม เสมอที่จะบรรยายธุรกิจของคุณใน 30 วินาที! ถ้าเลยกว่านี้แสดงว่าท่านอาจจะยัง ไม่เข้าใจธุรกิจของท่านดีพอ จงตระหนักถึง วิสัยทัศน์ ภารกิจ และเป้าหมายในการทํา ธุรกิจของท่านไว้ คุณค่าที่ท่านนําเสนอให้ ลูกค้าคืออะไร? ท่านต้องพร้อมที่จะตอบ คําถามเหล่านี้ทุกเมื่อ

4. Know what you know, what you don't know and who knows what you don't.
ไม่มีใครรู้ไปหมดทุกเรื่อง เป็นเรื่อง ปกติที่ท่านจะไม่รู้ในหลาย ๆ เรื่อง “จง พยายามรู้ว่าท่านรู้อะไร ท่านไม่รู้อะไร และ จงรู้ว่าใครรู้เรื่องที่ท่านไม่ร”ู้ พยายามไปอยู่ ใกล้ ๆ คนเหล่านั้นที่สามารถช่วยท่านได้ หาคนที่มีความรู้และประสบการณ์ที่พร้อม จะแบ่งปัน หรือมีเป้าหมายร่วมกันกับท่าน

5. Act like a startup.
ดําเนินธุรกิจอย่างธุรกิจที่เพิ่งเริ่ม ก่อตั้ง! ลืมเรื่องออฟฟิสหรู ๆ รถยนต์สวย ๆ คอมพิวเตอร์สุดล้ํา ไปได้เลย จงประหยัด! เงินสดเป็นเหมือนเลือดท่ีคอยหล่อเลี้ยง ธุรกิจของท่านให้สามารถดําเนินต่อไป จง ใช้เงินของท่านอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

6. Learn under fire.
ไม่มีแผนธุรกิจหรือหนังสือธุรกิจใด ที่สามารถล่วงรู้อนาคต หรือทําให้คุณเป็นผู้ ประกอบการที่สําเร็จได้ในทันที มันไม่มี แผนที่สมบูรณ์แบบ อย่ากระโจนเข้าไปทํา ธุรกิจที่เราไม่รู้ โดยไม่ผ่านการคิดหรือ วางแผน แต่ก็อย่าเสียเวลาคิดหลายปีก่อน เริ่มทําจริง ดาบจะแข็งแกร่งได้ต้องผ่านไฟ ร้อน ๆ เช่นเดียวกันกับนักธุรกิจ สิ่งที่สําคัญ คือคุณต้องสามารถเรียนรู้จากความผิด พลาด เปลี่ยนมันเป็นประสบการณ์ และจะ ไม่ทําผิดเดิมซ้ําสอง

7. No one give you money
ไม่มีใครจะให้เงินคุณฟรี ๆ จงเริ่ม ธุรกิจเล็ก ๆ ที่คุณสามารถหาเงินในการเริ่ม ธุรกิจด้วยตัวเองได้ พยายามขยายธุรกิจ ของคุณ เมื่อธุรกิจของคุณเริ่มเป็นที่ ประจักษ์ว่ามีอนาคต หรือสามารถสําเร็จได้ ค่อยเริ่มหาผู้ร่วมลงทุน หรือกู้ยืมเงินก้อน ใหญ่

8. Be healthy
จงรักษาสุขภาพให้ดี ทําตัวให้แข็ง แรงอยู่เสมอ ผู้ประกอบการเป็นไลฟ์สไตล์ ไม่ใช่การทํางาน 9 โมงเช้า เลิกงาน 5 โมง เย็น หลาย ๆ ครั้งคุณต้องทํางานตั้งแต่เช้า จรดค่ํา หรือแม้แต่เช้าของอีกวัน แต่เชื่อ เหอะว่าการโหมทํางานหนักจะไม่เป็นผลดี ในระยะยาว คุณจะคิดและตัดสินใจได้ดีกว่า เมื่อมีสุขภาพที่พร้อม

9. Don’t fall victim to your own words.
อย่าเป็นเหยื่อคําพูดของคุณเอง อย่าพูดในสิ่งที่คุณทําไม่ได้ จงสร้างความ ประทับใจด้วยการกระทําไม่ใช่คําพูด คิด และทําบนพื้นฐานของความเป็นจริง

10. Know when to call it quits.
อาจจะแตกต่างจากเชื่อโดยทั่ว ๆ ไปที่ว่า “กัปตันต้องจบไปพร้อมกับเรือ” กัปตันที่ฉลาดอาจไม่ทําเช่นนั้น อย่าหลงใน อัตตาของตัวเองว่าต้องทําให้สําเร็จ หรือฉัน จะแพ้ไม่ได้ จงรู้ว่าเมื่อไหร่ควรก้าวต่อไป เมื่อไหร่ควรหยุด และเมื่อไหร่ควรเลือกเส้น ทางเดินใหม่ ความล้มเหลวเป็นเรื่องปกติ ผู้ ประกอบการทุกคนจะต้องเคยล้มเหลวครั้ง หรือสองครั้งก่อนสําเร็จเสมอ
ที่มา : www.accprotax.net