เรื่องราวต่อไปนี้เป็นประสบการณ์การทำงานเป็นครั้งแรกของผม ซึ่งอยู่ในช่วงเดือน ก.พ. ถึง พ.ค. พ.ศ. 2556
บทนำ
วันที่ 9 ก.พ. 56 |
ช่วงปิดเทอมปี 2 ผมคิดอยากหางานทำเพราะขี้เกียจเรียน ผมมีเวลา 3 เดือนในช่วงปิดเทอมนี้ โดยผมวางแผนไว้ตั้งแต่ตอนเรียนเทอมปลายแล้ว ผมทำการสำรวจร้านที่เขารับสมัครงาน ก่อนปิดเทอม 1 สัปดาห์ผมไปเจอร้านขายกระเบื้อง"ไดนาตี้"เขารับสมัครพนักงาน ผมจึงเล็ง ๆ ไว้ เพราะว่าร้านอยู่ห่างบ้านผมราว ๆ 3 กิโลเมตรเท่านั้น
แต่เมื่อผมปิดเทอม ร้านดังกล่าว "ย้าย" ผมจึงลองตามไปดู แต่เขายังไม่ติดรับสมัคร ผมจึงลองไปที่ Do Home ซึ่งรับสมัครพนักงานเป็นจำนวนมาก (ซึ่งสำรวจมาก่อนหน้านี้แล้ว)
แต่เมื่อผมปิดเทอม ร้านดังกล่าว "ย้าย" ผมจึงลองตามไปดู แต่เขายังไม่ติดรับสมัคร ผมจึงลองไปที่ Do Home ซึ่งรับสมัครพนักงานเป็นจำนวนมาก (ซึ่งสำรวจมาก่อนหน้านี้แล้ว)
การสมัครงาน
27/02/56
เป็นวันสุดท้ายของการสอบ เมื่อสอบเสร็จก็ตั้งใจไปสมัครงานทันที
ผมเดินเข้าไปในร้าน Do Home และถามพนักงานว่า จะสมัครเป็นพนักงานต้องทำอย่างไร เขาบอกว่าให้ขับรถอ้อมไปด้านหลัง จะมี"ฝ่ายบุคคล"อยู่
ผมขับรถไปด้านข้างของห้าง ก็เห็นแผนกฝ่ายบุคคล ผมรู้สึกขาดเขลายิ่งนัก จึงเดินทางกลับบ้านเพื่อที่จะโทรถามฝ่ายบุคคล(เนื่องจากผมลืมเอาใบสมัครมา)
เมื่อกลับถึงบ้านก็ทำการโทรถามฝ่ายบุคคลดังเบอร์โทรที่ถ่ายรูปไว้ ผมถามรายละเอียดงาน แต่เขาบอกได้อย่างเดียวว่า "มาก่อน" ผมงง ว่า ทำไมเป็นอย่างนั้น จิตใจเริ่มท้อ จึงรอวันถัดไป(วันนี้เตรียมเอกสาร)
28/02/56 (วันสุดท้ายของเดือน)
เริ่มก้าวเดินใหม่ วันนี้ความขาดเขลาลดลงนิดหน่อย ผมเดินทางไปที่"ฝ่ายบุคคล"ซึ่งได้เห็นตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ผมบอกพนักงานรับสมัครว่า มาสมัครงานครับ เขาถามผมว่าจะอยู่แผนกไหน? ผมงงสักพักก่อนจะถามกลับไปว่า แผนกไหนว่างครับ เขาบอกให้ไปดูรายชื่อแผนกที่ว่างซึ่งติดอยู่บนบอร์ด (ซึ่งไม่ได้อัพเดดมาหลายเดือนแล้ว)
เรื่องราวซับซ้อนกว่าที่คิด!
เราต้องสมัครผ่านบริษัทอื่น เป็นตำแหน่ง "PC; Product Consultant" (พนักงานแนะนำสินค้า) แล้วทางบริษัทจะส่งคำขอมา ให้เราเข้าไปทำงานในห้างได้
โชคดีเหลือเกิน ตอนที่ผมกำลังดูบริษัทที่ขาด PC อยู่นั้น มี Sell คนหนึ่งทักผมว่า หางานอยู่หรอ ผมเลยบอกว่า ใช่ เขาเลยเสนองานให้ ที่ บริษัท VR Handle ผมเลยตอบรับทันที
ผมจึงได้ใบสมัครมา 2 ชุด คือ ของ Do Home และ VR Handle จากนั้นก็เขียนใบสมัคร เมื่อยื่นใบสมัครแล้ว ทางดูโฮมก็ให้ไปตรวจสุขภาพ ต้องตรวจร่างกายทั่วไป ตรวจสารเสพติด และต้องเอาสำเนาบัญชีไปด้วย (ให้ทางบริษัทโอนเงินเดือนเข้า)
ตอนแรกผมคิดว่าตัวเองโชคร้าย เพราะคนอื่น ๆ ที่มากับผมเขาส่งใบสมัครแล้วกลับบ้านทันที แต่ผมต้องยุ่งยากอยู่คนเดียว จริง ๆ แล้วคือคนอื่นต้องรอเรียกตัว เขาอาจเรียก หรือไม่เรียกเลย ซึ่งผมเพิ่งรู้ว่าผมโชคดีเหลือเกินที่เขารับทันที
สำหรับเงินเดือนก็ 9,000 บาท ตามมาตรฐาน(เหมาจ่าย; จะมาหรือไม่มาก็ได้ 9,000 ไม่มีหัก) และมีเบี้ยเลี้ยงวันละ 55 บาท (ถ้าไม่มาก็ไม่ได้) และค่าคอมมิสชัน 1%
สมมุติ 1 เดือนมี 30 วัน วันหยุด 4 วัน และขายได้ราว ๆ เดือนละ 150,000 บาท ซึ่งจะได้ค่าคอมมิสชัน 1,500 บาท ดังนั้นเงินเดือนจะได้ราว ๆ 9,000+55x26+1,500 =11,930 บาท
ขั้นตอนต่าง ๆ ทางบริษัท VRH (VR Handle) ได้อธิบายเรียบร้อยแล้ว ผมก็งงเป็นที่เรียบร้อย มีการลงเวลา มีการนั้นนี้ เพราะข้อมูลใหม่ ๆ ต่าง ๆ เข้ามาในหัวพร้อม ๆ กัน มันจึงทำให้ผมเรียนรู้ไม่ทัน แต่ผมรู้ว่าเรื่องเหล่านี้จะเกิดขึ้น ผมจึงพยายามจดไว้ให้ได้เยอะที่สุด แต่บางอันก็จดไม่ทัน ต้องจำมาจด ไม่ได้ยืนจดต่อหน้าผู้อธิบายงาน
สรุป พรุ้งนี้ (01/03/56) ไปตรวจร่างกายและไปเปิดบัญชี และมาเข้าปฐมนิเทศในวันต่อไป (02/03/56) พร้อมนำใบตรวจร่างกายมาด้วย
01/03/56
วันนี้ต้องเตรียมสิ่งที่เขาให้ส่ง ต้องไปโรงบาลเพื่อตรวจโรถต่าง ๆ และตอนบ่ายต้องไปเปิดบัญชี
02/03/56
มาเข้าปฐมนิเทศตอน 10:00 น. ระยะทางจากบ้านมาที่ดูโฮม 7.1 กิโลเมตร ใช้เวลาราว ๆ 10-15 นาที เมื่อมาถึงห้อง เขาเปิดวิดีโอเรื่องราวของดูโฮมให้ดู
ตอนแรกเป็นร้านค้าวัสดุตั้งอยู่ในจังหวัดอุบล ใช้ชื่อร้านว่า อุบลวัสดุ ต่อมาก็ทำการขยายกิจการไปเรื่อย ๆ และก็ได้ใช้ชื่อ DO HOME ซึ่งอยู่ในเคลืออุบลวัสดุ
นอกจากนี้ทางฝ่ายบุคคลก็ได้ให้ไปซื้อเสื้อ เอี้ยว และแนะนำงานเบื้องต้น โดยรวมยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
กลับมาตอนเย็นต้องไปซื้อกางเกงสแล็ก เพราะเขาไม่ให้ใส่กาเกงอย่างอื่นนอกจากสแล็ก
เริ่มงานวันแรก
03/03/56
และแล้ววันนี้ก็มาถึง คือ วันทำงานวันแรก หลายท่านอาจลืมความรู้สึกเหล่านี้ไปแล้ว แต่ผมยังคงไม่ลืม
07:30 น. ผมมานั่งอยู่หน้าห้องแผนกบุคคลเพื่อรอทำบัตรพนักงาน สแกนลายนิ้วมือเพื่อบันทึกลายนิ้วมือไว้ใช้สแกนตอนเข้างาน เจ้าหน้าที่กล่าวว่า "อาทิตย์แรกทำงานตั้งแต่ 08:00 น. ถึง 19:00 น. คือควบกะ!" อะไรคือควบกะ???
08:00 น. ก็รอผู้จัดการแผนกมารับตัวไป รอกระทั้ง 08:40 น. ก็มีคนมาเรียก แต่เขาไม่ใช่ผู้จัดการแผนกเรา พอไปถึงก็ได้รู้ว่าแผนกเรายังไม่มีผู้จัดการ ผมก็ทำการสำรวจว่าผลิตภัณท์ VRH มีอะไรบ้าง อยู่ไหนบ้าง
มีคนมาซื้อที่วางจานสเตนเลส เขาตรวจดูโดยใช้ฝาของโทรศัพท์ซึ่งมีแม่เหล็กอยู่ คือ หากเป็นเหล็ก แม่เหล็กจะดูด หากไม่ดูด แสดงว่านั้นเป็นสแตนเลสแท้ ... ผมยืนมองแล้วก็คิด ๆ ว่า เออ VRH เป็นสแตนเลสแท้แฮะ ก็ได้ขายไป
12:45 น. คนในแผนกพากันไปกินข้าวหมด เหลือแค่ผมที่ยังอยู่ และแล้วก็มี "ของลง" มันคือลังผลิตภัณฑ์ของ VRH หลายกล่องมาส่ง ผมยืนงงว่าต้องทำอย่างไร และแล้วคนส่งของก็ให้ใบมาเซ็นต์รับ แล้วผมก็ยืนงงต่อว่าผมจะเก็บของมากมายเหล่านี้ไว้ไหนดี
13:00 น. คนอื่น ๆ ในแผนกกินข้าวเสร็จพอดี ผมเลยได้ไปพัก อาหารก็ไม่ค่อยจะมีหรอก เพราะคนอื่นเขากินไปหมดแล้ว ช่วงเวลาพักคือ 10:30 น. ถึง 14:30 น. เขาให้เปลี่ยนกันมากิน แต่แผนกผมไม่มีผู้จัดการแผนก พนักงานบางคนเลยตั้งตัวเองเป็นใหญ่ แผนกผมมีคนประมาณ 8 คน
ในขณะทำงาน ทาง บ. ห้ามให้พนักงานนั่ง เมื่อกินข้าวเสร็จ ผมต้องนั่งพักขา เพราะเคยสบายมาก่อน จู่ ๆ มายืนทั้งวัน เลยเหนื่อยมาก อีกทั้งหิวอีก ระหว่างนั่งพัก ก็จดอะไรก็ตามที่พลักงานคนอื่นบอก เช่น
18:00 น. ตอนนี้ลูกค้าเริ่มไม่มีเวลา ผมเมื่อยขาอย่างไม่ต้องสงสัย ผมยืนมา 9 ชม. หรือเนี่ย ... มีคนบอกว่า "อย่าหาเรื่องใส่ตัว" ผมคิด ๆ ดูว่านี้รึปล่าวที่หมายถึงหาเรื่องใส่ตัว คงไม่ใช่มั้ง ถ้าเราไม่มา เราคงไม่รู้อะไร ๆ หลาย ๆ อย่าง ที่นี้ยังคงมีกฎมากมายให้ปฎิบัติ ผมยังคงต้องเรียนรู้และปรับตัวต่อไป
19:05 น. ผมยืนรอสแกนลายนิ้วมือเพื่อออกงาน เพราะต้องรอ 19:10 น. เขาจึงเปิดเครื่องให้สแกน พนักงานมีราว ๆ 200 คน (แต่เข้า-ออกคนละเวลา) มีเครื่องสแกน 2 ตัว ผมถือว่าเพียงพอ ผมอยู่คนสุดท้าย รอประมาณ 7 นาทีก็เสร็จหมด ก่อนออก มีเจ้าหน้าที่ตรวจเช็ค ว่าเราได้เอาของอะไรออกไปรึปล่าว... ภารกิจวันแรกเสร็จสิ้น
04/03/56
ตื่นเช้ามา ฝนตกครับ อากาศน่านอนมาก ๆ แล้วความคิดก็แวบเข้ามา... เอ๋ ไม่ไปทำงานดีไหม! แหม เพิ่งวันที่ 2 เอง ก็ขี้เกียจซ่ะแล้ว แต่สุดท้ายก็กลั้นใจมาทำงาน
ก่อนเข้าไปทำงาน มีเจ้าหน้าที่มาตรวจกระเป๋า เขาห้ามนำพวกโทรศัพท์เข้าไปเล่น เพราะมันคือเวลาทำงาน ผมก็ไม่มีปัญหาอะไร
ดูโฮมภาคอีสานมีแต่พนักงานที่พูดภาษาอีสาน ผมเองก็พูดไม่เก่ง แต่ก็ต้องพยายามปรับให้เข้า พูดผิด ๆ ถูก ๆ อยู่ ผมเองเป็นคนที่แปลก พ่อ-แม่ ยาย พูดอีสาน แต่ผมไม่พูดเลย ฟังอย่างเดียว เพื่อนผมที่เกิดในขอนแก่นและใช้ชีวิตในขอนแก่นก็ไม่ค่อยพูดอีสานกัน หรือเด็กสมัยนี้เขาไม่พูด ไม่รู้ยังไง
ทำงานช่วงแรกมันเหนื่อย มันปรับตัวยังไม่ได้ พนักงานในแผนกเดียวกันก็แอบหนีไปพักอย่างเดียว เพราะไม่มีผู้จัดการแผนก ยังไม่มีใครมาดูแล จับกลุ่มตั้งตัวเป็นใหญ่ในแผนก ผมเองก็ยังทำอะไรไม่ได้ ต้องพึ่ง ต้องให้เขาสอนงาน แต่เขาก็ไม่ค่อยสอนหรอก
ปัญหาคือ ทำงานไม่เป็น และไม่มีใครสอนงาน ตอนนี้ผมพยายามคิด ว่า จะทำยังไงให้ทำงานเป็น เลยต้องติดตามเขาไป ตอนที่เขาใช้ให้ไปทำนั้นทำนี้ เราก็จะได้รู้ว่าทำยังไง
05/03/56
วันนี้มาถึง ทุกคนในแผนกขยันมาก จนอุปกรณ์ทำความสะอาดไม่เพียงพอ ผ้าเช็ดสินค้า ไม้กวาด ฯลฯ ไม่มีว่างเลย ผมเลยยังไม่มีอะไรทำ ผมหาสินค้ามาเติมตามปกติ จนกระทั้งตอนเที่ยง ผมเจอนายใหญ่ ซึ่งมาจากสาขาแรก (อุบลวัสดุ) พนักงานที่นั้นต่างเรียกนายท่านนี้ว่า "ซ้อใหญ่" ได้ข่าวว่าไล่แม่ครัวออกไป 1 คน ในข้อหาทำอาหารไม่อร่อย และลดตำแหน่งผู้จัดการแผนกเป็นพนักงานทั่วไป 1 คน ในข้อหาไม่ดูแลสินค้า ปล่อยให้ของเละเทะ ... ราว ๆ บ่ายกว่า ๆ ซ้อใหญ่เดินมาถึงแผนกผมและเรียกรวม ผมไปก่อนเพื่อนเพราะตอนนั้นยังไม่รู้อะไร คนอื่น ๆ ค่อยๆ ทำท่าวิ่งตามมา (พยายามไปทีหลังจะได้อยู่หลัง ๆ) พอไปถึง ถูกด่าแหลกราน เพราะไม่เติมสินค้า (พวกยาแนวกระเบื้อง) สินค้าพวกนี้ยังไม่มีพนักงานมาดูแล เลยไม่มีใครมาสนใจ แถมแผนกผมยังไม่มีผู้จัดการ เลยยิ่งไม่มีใครสนใจ ทำหน้าที่เฉพาะของตัวเอง ตอนนี้ผมยังไม่รู้กฏเกณฑ์อะไรมากนัก ได้แต่ยืนถูกด่าไปเรื่อย ๆ ผมคิดในใจ โอ๊ว วันนี้ยังไม่ได้ทำความสะอาดสินค้าเลย จะไม่ถูกด่าอีกซ่ะติ ขณะที่ถูกด่าอยู่นั้นก็รู้สึกหนักใจว่าจะถูกด่าต่อเนื่องมาอีก แต่สุดท้ายก็ไม่ถูกด่า เพราะสินค้าที่ผมดูแลยังคงสะอาดอยู่
06/03/58
วันนี้มีคนบอกว่า เปลี่ยนป้ายราคาใหม่หน่อย ว่างั้น โอเคร ทำยังไง เขาก็บอกผมว่า จด Code 13 ตัวไปที่คอมพิวเตอร์ แล้วพิมพ์โคด แล้วสั่งพิมพ์ อีกสัก 30 นาทีค่อยไปรับที่ฝ่ายพิมพ์ป้าย โอเคร ผมจดละเอียดทุกขั้นตอน ผมลองทำดูสักอัน ผมถามเขาว่า ต้องเปลี่ยนบ่อยแค่ไหน เขาว่า ทุก ๆ 15 วัน .... สินค้าผมไม่เปลี่ยนป้ายมาราว ๆ 2 เดือนแล้ว เพราะไม่มีพนักงานมาดูแล สินค้าที่ผมดูแล มีราว ๆ 280 ผลิตภัณฑ์ โอ๊ว มาย ก๊อด! ในวันนั้น งานหลักของผมคือ จดโค้ดเพื่อไปเปลี่ยนป้าย ไม่ใช่แค่จดแล้วไปสั่งที่คอมน่ะ เพราะว่าคนอื่น ๆ ก็ใช้คอมเหมือนกัน เราเป็นพนักงานใหม่ เราต้องให้เขาใช้งานก่อน เราต้องเป็นคนสุดท้ายที่ได้ใช้
27/02/56
เป็นวันสุดท้ายของการสอบ เมื่อสอบเสร็จก็ตั้งใจไปสมัครงานทันที
ผมเดินเข้าไปในร้าน Do Home และถามพนักงานว่า จะสมัครเป็นพนักงานต้องทำอย่างไร เขาบอกว่าให้ขับรถอ้อมไปด้านหลัง จะมี"ฝ่ายบุคคล"อยู่
ผมขับรถไปด้านข้างของห้าง ก็เห็นแผนกฝ่ายบุคคล ผมรู้สึกขาดเขลายิ่งนัก จึงเดินทางกลับบ้านเพื่อที่จะโทรถามฝ่ายบุคคล(เนื่องจากผมลืมเอาใบสมัครมา)
เมื่อกลับถึงบ้านก็ทำการโทรถามฝ่ายบุคคลดังเบอร์โทรที่ถ่ายรูปไว้ ผมถามรายละเอียดงาน แต่เขาบอกได้อย่างเดียวว่า "มาก่อน" ผมงง ว่า ทำไมเป็นอย่างนั้น จิตใจเริ่มท้อ จึงรอวันถัดไป(วันนี้เตรียมเอกสาร)
28/02/56 (วันสุดท้ายของเดือน)
เริ่มก้าวเดินใหม่ วันนี้ความขาดเขลาลดลงนิดหน่อย ผมเดินทางไปที่"ฝ่ายบุคคล"ซึ่งได้เห็นตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ผมบอกพนักงานรับสมัครว่า มาสมัครงานครับ เขาถามผมว่าจะอยู่แผนกไหน? ผมงงสักพักก่อนจะถามกลับไปว่า แผนกไหนว่างครับ เขาบอกให้ไปดูรายชื่อแผนกที่ว่างซึ่งติดอยู่บนบอร์ด (ซึ่งไม่ได้อัพเดดมาหลายเดือนแล้ว)
เรื่องราวซับซ้อนกว่าที่คิด!
เราต้องสมัครผ่านบริษัทอื่น เป็นตำแหน่ง "PC; Product Consultant" (พนักงานแนะนำสินค้า) แล้วทางบริษัทจะส่งคำขอมา ให้เราเข้าไปทำงานในห้างได้
โชคดีเหลือเกิน ตอนที่ผมกำลังดูบริษัทที่ขาด PC อยู่นั้น มี Sell คนหนึ่งทักผมว่า หางานอยู่หรอ ผมเลยบอกว่า ใช่ เขาเลยเสนองานให้ ที่ บริษัท VR Handle ผมเลยตอบรับทันที
ผมจึงได้ใบสมัครมา 2 ชุด คือ ของ Do Home และ VR Handle จากนั้นก็เขียนใบสมัคร เมื่อยื่นใบสมัครแล้ว ทางดูโฮมก็ให้ไปตรวจสุขภาพ ต้องตรวจร่างกายทั่วไป ตรวจสารเสพติด และต้องเอาสำเนาบัญชีไปด้วย (ให้ทางบริษัทโอนเงินเดือนเข้า)
ตอนแรกผมคิดว่าตัวเองโชคร้าย เพราะคนอื่น ๆ ที่มากับผมเขาส่งใบสมัครแล้วกลับบ้านทันที แต่ผมต้องยุ่งยากอยู่คนเดียว จริง ๆ แล้วคือคนอื่นต้องรอเรียกตัว เขาอาจเรียก หรือไม่เรียกเลย ซึ่งผมเพิ่งรู้ว่าผมโชคดีเหลือเกินที่เขารับทันที
สำหรับเงินเดือนก็ 9,000 บาท ตามมาตรฐาน(เหมาจ่าย; จะมาหรือไม่มาก็ได้ 9,000 ไม่มีหัก) และมีเบี้ยเลี้ยงวันละ 55 บาท (ถ้าไม่มาก็ไม่ได้) และค่าคอมมิสชัน 1%
สมมุติ 1 เดือนมี 30 วัน วันหยุด 4 วัน และขายได้ราว ๆ เดือนละ 150,000 บาท ซึ่งจะได้ค่าคอมมิสชัน 1,500 บาท ดังนั้นเงินเดือนจะได้ราว ๆ 9,000+55x26+1,500 =11,930 บาท
ผลิตภัณฑ์ของ VRH ก๊อกน้ำรูปหมี |
สรุป พรุ้งนี้ (01/03/56) ไปตรวจร่างกายและไปเปิดบัญชี และมาเข้าปฐมนิเทศในวันต่อไป (02/03/56) พร้อมนำใบตรวจร่างกายมาด้วย
01/03/56
วันนี้ต้องเตรียมสิ่งที่เขาให้ส่ง ต้องไปโรงบาลเพื่อตรวจโรถต่าง ๆ และตอนบ่ายต้องไปเปิดบัญชี
02/03/56
มาเข้าปฐมนิเทศตอน 10:00 น. ระยะทางจากบ้านมาที่ดูโฮม 7.1 กิโลเมตร ใช้เวลาราว ๆ 10-15 นาที เมื่อมาถึงห้อง เขาเปิดวิดีโอเรื่องราวของดูโฮมให้ดู
ตอนแรกเป็นร้านค้าวัสดุตั้งอยู่ในจังหวัดอุบล ใช้ชื่อร้านว่า อุบลวัสดุ ต่อมาก็ทำการขยายกิจการไปเรื่อย ๆ และก็ได้ใช้ชื่อ DO HOME ซึ่งอยู่ในเคลืออุบลวัสดุ
นอกจากนี้ทางฝ่ายบุคคลก็ได้ให้ไปซื้อเสื้อ เอี้ยว และแนะนำงานเบื้องต้น โดยรวมยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
กลับมาตอนเย็นต้องไปซื้อกางเกงสแล็ก เพราะเขาไม่ให้ใส่กาเกงอย่างอื่นนอกจากสแล็ก
เริ่มงานวันแรก
บัตรพนักงาน |
และแล้ววันนี้ก็มาถึง คือ วันทำงานวันแรก หลายท่านอาจลืมความรู้สึกเหล่านี้ไปแล้ว แต่ผมยังคงไม่ลืม
07:30 น. ผมมานั่งอยู่หน้าห้องแผนกบุคคลเพื่อรอทำบัตรพนักงาน สแกนลายนิ้วมือเพื่อบันทึกลายนิ้วมือไว้ใช้สแกนตอนเข้างาน เจ้าหน้าที่กล่าวว่า "อาทิตย์แรกทำงานตั้งแต่ 08:00 น. ถึง 19:00 น. คือควบกะ!" อะไรคือควบกะ???
08:00 น. ก็รอผู้จัดการแผนกมารับตัวไป รอกระทั้ง 08:40 น. ก็มีคนมาเรียก แต่เขาไม่ใช่ผู้จัดการแผนกเรา พอไปถึงก็ได้รู้ว่าแผนกเรายังไม่มีผู้จัดการ ผมก็ทำการสำรวจว่าผลิตภัณท์ VRH มีอะไรบ้าง อยู่ไหนบ้าง
มีคนมาซื้อที่วางจานสเตนเลส เขาตรวจดูโดยใช้ฝาของโทรศัพท์ซึ่งมีแม่เหล็กอยู่ คือ หากเป็นเหล็ก แม่เหล็กจะดูด หากไม่ดูด แสดงว่านั้นเป็นสแตนเลสแท้ ... ผมยืนมองแล้วก็คิด ๆ ว่า เออ VRH เป็นสแตนเลสแท้แฮะ ก็ได้ขายไป
12:45 น. คนในแผนกพากันไปกินข้าวหมด เหลือแค่ผมที่ยังอยู่ และแล้วก็มี "ของลง" มันคือลังผลิตภัณฑ์ของ VRH หลายกล่องมาส่ง ผมยืนงงว่าต้องทำอย่างไร และแล้วคนส่งของก็ให้ใบมาเซ็นต์รับ แล้วผมก็ยืนงงต่อว่าผมจะเก็บของมากมายเหล่านี้ไว้ไหนดี
13:00 น. คนอื่น ๆ ในแผนกกินข้าวเสร็จพอดี ผมเลยได้ไปพัก อาหารก็ไม่ค่อยจะมีหรอก เพราะคนอื่นเขากินไปหมดแล้ว ช่วงเวลาพักคือ 10:30 น. ถึง 14:30 น. เขาให้เปลี่ยนกันมากิน แต่แผนกผมไม่มีผู้จัดการแผนก พนักงานบางคนเลยตั้งตัวเองเป็นใหญ่ แผนกผมมีคนประมาณ 8 คน
ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ VRH |
- ต้องมีรหัสอะไรสักอย่าง เอาไว้เช็คดูว่าตัวเองขายของได้มากแค่ไหน
- บริษัทไหนไม่มี PC ทางดูโฮมจะหักวันละ 300 บาท ... เราเลยเข้าใจ ว่าทำไม Sale ท่านนั้นจึงรับผมทันที อาจเพราะจ้าง-ไม่จ้าง ก็ได้จ่ายเงินเหมือนเดิม
- ตอนเช้ามีคนมาถามผมว่า "ตะแกรง" มีอีกไหม? แหม... ผมเพิ่งมาทำงานวันแรก ผมไม่รู้ว่าพนักงานคนอื่นเก็บไว้ที่ไหน ผมเลยไม่ได้ขาย คือว่าผลิตภัณฑ์ที่ผมขายนั้นเป็นพวกตะแกรงวางจาน ที่วางสบู่ อะไรประมาณนั้น ทีนี้ มันใหญ่และที่วางมันเล็ก จึงวางได้ที่ละตั้งแต่ 1 ถึง 5 อัน ช่องที่วางได้ 1 อัน เมื่อขายได้ ผมต้องปีนขึ้นไปชั้นบนสุด เพื่อเอาของลงมาขายใหม่ (ก่อนหน้านี้ VRH ไม่มี PC มาระยะหนึ่ง ซึ่งทำให้หลายผลิตภัณฑ์ไม่ได้เอาลงมาขาย เพราะพนักงานคนอื่นเขาไม่สนใจ)
- อาทิตย์นี้ทางดูโฮมเขาจัดงานลดราคา ลูกค้ากล่าวกับผมว่า เขาซื้อตะแกรงไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เขาเสียดายมาก ไม่รู้ว่าจะมีการลดราคา
ก๊อกน้ำกะรัต |
ผมลืมไปว่านาฬิกาของผมมันช้ากว่าของดูโฮม 4 นาที ผมพักเต็มเวลาเลยทีเดียว เมื่อยขามาก ๆ หลังจากที่พักเสร็จก็ต้องไปเก็บของที่ถูกส่งมาขายเยอะแยะ
เมื่อออกจากที่รับประทานอาหาร ก็เข้าห้องน้ำ... ผมเปิดก๊อกน้ำไม่เป็น ผมหมุนไปทางซ้ายน้ำก็ไม่ไหล หมุนทางขวาก็ไม่ไหว โอ๊วพระเจ้า ที่แท้ต้องแตะขึ้น ผมเพิ่งเคยใช้ก๊อกแบบนี้ มันมีหน้าตาเหมือนภาพด้านขวามือ (ภาพก๊อกน้ำกะรัต)
มาถึงภาระกิจเก็บของขึ้นไปบนชั้นวางของ ผมลองยก ๆ ดู บางกล่องไม่หนักมากครับ เพราะเป็นตะแกรงวางของทั่วไป กล่องมีขนาดราว ๆ 90x90x90 เซนติเมตร จำนวน 11 กล่อง ผมก็ทำไปเรื่อย ๆ จนกระทั้งค่ำ ระหว่างทำต้องใช้รถบันได บางทีพนักงานคนอื่นก็จะใช้ เราก็ต้องให้
18:00 น. ตอนนี้ลูกค้าเริ่มไม่มีเวลา ผมเมื่อยขาอย่างไม่ต้องสงสัย ผมยืนมา 9 ชม. หรือเนี่ย ... มีคนบอกว่า "อย่าหาเรื่องใส่ตัว" ผมคิด ๆ ดูว่านี้รึปล่าวที่หมายถึงหาเรื่องใส่ตัว คงไม่ใช่มั้ง ถ้าเราไม่มา เราคงไม่รู้อะไร ๆ หลาย ๆ อย่าง ที่นี้ยังคงมีกฎมากมายให้ปฎิบัติ ผมยังคงต้องเรียนรู้และปรับตัวต่อไป
19:05 น. ผมยืนรอสแกนลายนิ้วมือเพื่อออกงาน เพราะต้องรอ 19:10 น. เขาจึงเปิดเครื่องให้สแกน พนักงานมีราว ๆ 200 คน (แต่เข้า-ออกคนละเวลา) มีเครื่องสแกน 2 ตัว ผมถือว่าเพียงพอ ผมอยู่คนสุดท้าย รอประมาณ 7 นาทีก็เสร็จหมด ก่อนออก มีเจ้าหน้าที่ตรวจเช็ค ว่าเราได้เอาของอะไรออกไปรึปล่าว... ภารกิจวันแรกเสร็จสิ้น
04/03/56
ตื่นเช้ามา ฝนตกครับ อากาศน่านอนมาก ๆ แล้วความคิดก็แวบเข้ามา... เอ๋ ไม่ไปทำงานดีไหม! แหม เพิ่งวันที่ 2 เอง ก็ขี้เกียจซ่ะแล้ว แต่สุดท้ายก็กลั้นใจมาทำงาน
ก่อนเข้าไปทำงาน มีเจ้าหน้าที่มาตรวจกระเป๋า เขาห้ามนำพวกโทรศัพท์เข้าไปเล่น เพราะมันคือเวลาทำงาน ผมก็ไม่มีปัญหาอะไร
ดูโฮมภาคอีสานมีแต่พนักงานที่พูดภาษาอีสาน ผมเองก็พูดไม่เก่ง แต่ก็ต้องพยายามปรับให้เข้า พูดผิด ๆ ถูก ๆ อยู่ ผมเองเป็นคนที่แปลก พ่อ-แม่ ยาย พูดอีสาน แต่ผมไม่พูดเลย ฟังอย่างเดียว เพื่อนผมที่เกิดในขอนแก่นและใช้ชีวิตในขอนแก่นก็ไม่ค่อยพูดอีสานกัน หรือเด็กสมัยนี้เขาไม่พูด ไม่รู้ยังไง
ทำงานช่วงแรกมันเหนื่อย มันปรับตัวยังไม่ได้ พนักงานในแผนกเดียวกันก็แอบหนีไปพักอย่างเดียว เพราะไม่มีผู้จัดการแผนก ยังไม่มีใครมาดูแล จับกลุ่มตั้งตัวเป็นใหญ่ในแผนก ผมเองก็ยังทำอะไรไม่ได้ ต้องพึ่ง ต้องให้เขาสอนงาน แต่เขาก็ไม่ค่อยสอนหรอก
ปัญหาคือ ทำงานไม่เป็น และไม่มีใครสอนงาน ตอนนี้ผมพยายามคิด ว่า จะทำยังไงให้ทำงานเป็น เลยต้องติดตามเขาไป ตอนที่เขาใช้ให้ไปทำนั้นทำนี้ เราก็จะได้รู้ว่าทำยังไง
05/03/56
วันนี้มาถึง ทุกคนในแผนกขยันมาก จนอุปกรณ์ทำความสะอาดไม่เพียงพอ ผ้าเช็ดสินค้า ไม้กวาด ฯลฯ ไม่มีว่างเลย ผมเลยยังไม่มีอะไรทำ ผมหาสินค้ามาเติมตามปกติ จนกระทั้งตอนเที่ยง ผมเจอนายใหญ่ ซึ่งมาจากสาขาแรก (อุบลวัสดุ) พนักงานที่นั้นต่างเรียกนายท่านนี้ว่า "ซ้อใหญ่" ได้ข่าวว่าไล่แม่ครัวออกไป 1 คน ในข้อหาทำอาหารไม่อร่อย และลดตำแหน่งผู้จัดการแผนกเป็นพนักงานทั่วไป 1 คน ในข้อหาไม่ดูแลสินค้า ปล่อยให้ของเละเทะ ... ราว ๆ บ่ายกว่า ๆ ซ้อใหญ่เดินมาถึงแผนกผมและเรียกรวม ผมไปก่อนเพื่อนเพราะตอนนั้นยังไม่รู้อะไร คนอื่น ๆ ค่อยๆ ทำท่าวิ่งตามมา (พยายามไปทีหลังจะได้อยู่หลัง ๆ) พอไปถึง ถูกด่าแหลกราน เพราะไม่เติมสินค้า (พวกยาแนวกระเบื้อง) สินค้าพวกนี้ยังไม่มีพนักงานมาดูแล เลยไม่มีใครมาสนใจ แถมแผนกผมยังไม่มีผู้จัดการ เลยยิ่งไม่มีใครสนใจ ทำหน้าที่เฉพาะของตัวเอง ตอนนี้ผมยังไม่รู้กฏเกณฑ์อะไรมากนัก ได้แต่ยืนถูกด่าไปเรื่อย ๆ ผมคิดในใจ โอ๊ว วันนี้ยังไม่ได้ทำความสะอาดสินค้าเลย จะไม่ถูกด่าอีกซ่ะติ ขณะที่ถูกด่าอยู่นั้นก็รู้สึกหนักใจว่าจะถูกด่าต่อเนื่องมาอีก แต่สุดท้ายก็ไม่ถูกด่า เพราะสินค้าที่ผมดูแลยังคงสะอาดอยู่
06/03/58
วันนี้มีคนบอกว่า เปลี่ยนป้ายราคาใหม่หน่อย ว่างั้น โอเคร ทำยังไง เขาก็บอกผมว่า จด Code 13 ตัวไปที่คอมพิวเตอร์ แล้วพิมพ์โคด แล้วสั่งพิมพ์ อีกสัก 30 นาทีค่อยไปรับที่ฝ่ายพิมพ์ป้าย โอเคร ผมจดละเอียดทุกขั้นตอน ผมลองทำดูสักอัน ผมถามเขาว่า ต้องเปลี่ยนบ่อยแค่ไหน เขาว่า ทุก ๆ 15 วัน .... สินค้าผมไม่เปลี่ยนป้ายมาราว ๆ 2 เดือนแล้ว เพราะไม่มีพนักงานมาดูแล สินค้าที่ผมดูแล มีราว ๆ 280 ผลิตภัณฑ์ โอ๊ว มาย ก๊อด! ในวันนั้น งานหลักของผมคือ จดโค้ดเพื่อไปเปลี่ยนป้าย ไม่ใช่แค่จดแล้วไปสั่งที่คอมน่ะ เพราะว่าคนอื่น ๆ ก็ใช้คอมเหมือนกัน เราเป็นพนักงานใหม่ เราต้องให้เขาใช้งานก่อน เราต้องเป็นคนสุดท้ายที่ได้ใช้