![]() |
งาน DIY ที่เป็นงานซ่อมแซม ซ่อมรองเท้า |
![]() |
งาน DIY ที่เป็นงานเชิงศิลปะ |
งาน DIY มีแรงจูงใจต่าง ๆ แบ่งออกได้เป็น 1.แรงจูงใจทางตลาด เช่น ในตลาดยังไม่มีสิ่งนี้ขาย จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ที่คิดอะไรใหม่ๆได้ทำไปจำหน่าย) และ 2.การเพิ่มประสิทธิภาพให้ตัวตน เช่น งานฝีมือ, เพิ่มขีดความสามารถให้ตัวเอง หาความเอกลักษณ์ของตัวเอง [2]
คำว่า "ทำได้ด้วยตัวคุณเอง" มีความเชื่อมโยงกับผู้บริโภคอย่างน้อยตั้งแต่ปี ค.ศ. 1912 งาน DIY จะเป็นกิจกรรมการปรับปรุงบ้านและการบำรุงรักษาบ้านเป็นหลัก. [3] ประโยคที่ว่า "Do it yourself" จึงถูกใช้ในมาตรฐานภาษาอังกฤษ ในช่วงปี 1950.[4] ในการใช้อธิบายของคนที่ดำเนินการปรับปรุงบ้านและเรือขนาดเล็กอื่น ๆ อีกมากมาย รวมถึงงานก่อสร้างที่เป็นแนวความคิดสร้างสรรค์ ด้านการกีฬา หรือกิจกรรมที่ประหยัดค่าใช้จ่าย
ต่อมา คำว่างาน DIY ได้มีความหมายที่กว้างขึ้น ครอบคลุมหลากหลายทักษะ เนื้อหาของคำว่า DIY เกี่ยวข้องกับงานศิลปะและงานหัตถกรรมที่สร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่ โดยเน้นวัฒนธรรมของผู้บริโภค อาจเป็นงานที่ทันสมัย หรืองานคลาสสิค เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้คนในชุมชน นอกจากนี้ตัวย่อ "DIY" ใช้กันอย่างแพร่หลายในทางทหาร เป็นวิธีการที่จะสอนให้ผู้บัญชาการหรือหน่วยงานประเภทอื่น ๆ ว่าพวกเขาจะสามารถทำบางสิ่งได้ด้วยตัวเอง เช่นเดียวกับการเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตของตัวเอง
ประวัติศาสตร์งานที่ทำได้ด้วยตัวเราเอง : DIY History
![]() |
"ancient IKEA building" |
เป็นโครงสร้างอาคารวัด เหมือนที่ค้นพบใน Torre Satriano ใกล้เมืองทางตอนใต้ของเมืองโปเตน ซึ่งบริเวณนั้นมีผู้คนในท้องถิ่นผสมกับชาวกรีกที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ตามแนวชายฝั่งภาคใต้ที่เรียกว่าใหญ่ Graecia และในซิซิลี จากศตวรรษที่ 8 เป็นต้นไป

งาน DIY ในหมู่ชุมชนแฟชั่นได้กลายเป็นที่นิยมมากขึ้น ด้วยการใช้สื่อสังคมเช่น YouTube นำเสนอเรื่องราวงาน DIY ในชีวิตประจำวัน วิดีโอแฟชั่น DIY เช่น กางเกงยีนส์ที่ตกสี, ฟอกสียีนส์, หรือการออกแบบเสื้อเก่า เทรนด์ใหม่นี้จะเพิ่มขึ้นเป็นที่นิยมมากขึ้น มีคลิปวิดีโอมากกว่า 1,000 คลิป ที่โพสต์แสดงวิธีการที่จะทำสิ่งเหล่านั้น เช่น เครื่องประดับ DIY ตกแต่งห้อง DIY และทรงผม DIY

การปรับปรุงบ้าน ทำได้ด้วยตัวเราเอง : DIY
งาน DIY เหมือนเป็นงานที่นำของที่มีอยู่กลับมาใช้ใหม่ เช่น ใช้เศษผ้าที่ขาดมาเย็บเป็นผืน ใช้ทำเป็นผ้าม่านบังแดดในโรงรถ หรือการใช้เป็นผ้าเช็ดเท้า การทำชั้นไม้ที่ติดกับรถของเล่น เพื่อให้ชั้นไม้สามารถเคลื่อนที่ได้(ภาพด้านขวา)
ส่วนใหญ่ในระบบการศึกษาของเรา ไม่สามารถสอนงานได้ครบ บางคนอาจไม่ได้เรียนรู้วิธีการปรุงอาหาร, วิธีการทำเสื้อผ้า, วิธีการสร้างบ้านวิธีที่จะทำให้เกิดความรัก หรือการดำเนินการใด ๆ ในสิ่งที่เป็นพื้นฐานของชีวิต การศึกษาของเราที่สอนในโรงเรียนจะเป็นในมุมของแนวคิด อาจฝึกให้คุณเป็นพนักงานขายประกัน หรือข้าราชการ หรืองานอื่นๆ [5]
![]() |
Whole Earth Catalog |
ในช่วงปลายปี 1960. งาน DIY ได้แพร่กระจายไปในมหาวิทยาลัยอเมริกาเหนือและวิทยาลัยบัณฑิต
ในช่วงนี้จึงเกิดงานใหม่ๆขึ้น เช่น ปรับปรุงบ้านเก่าแล้วขายในราคาถูก และเกิดโครงการต่างๆขึ้นมากมาย งาน DIY กลายเป็นงานแสดงวิสัยทัศน์ทางสังคมและสิ่งแวดล้อม ปลายปี 1968 มีหนุ่มได้เขียนตำราเกี่ยวกับเครื่องมือช่างพื้นฐานขึ้น (The Whole Earth Catalog, ภาพด้านซ้ายมือ) และวางจำหน่ายในปี 1969
หนังสือเล่มแรกจะเน้นในเรื่องเครื่องมือที่หาได้ง่าย เช่น เครื่องมือทำงานสวน พร้อมกับสอดแทรกเทคนิคงานต่างๆไว้ด้วย ในเล่มยังมีกล่าวถึงวัสดุต่างๆ เช่น หญ้าและไม้
เอกสารอ้างอิง
[1] Wolf & McQuitty (2011). Understanding the Do-It-Yourself Consumer : DIY Motivation and Outcomes. Academy of Marketing Science Review.
[2] Wolf & McQuitty (2011)
[3] Gelber (1997). Do-It-Yourself: Construction, Repairing and Maintaining Domestic Masculinity. American Quarterly.
[4] McKellar, S. & Sparke, P. (eds.). Interior Design and Identity.
[5] Watts, Alan et al. "Houseboat Summit" in The San Francisco Oracle, issue #7. San Francisco.